ทัวร์ญี่ปุ่น TOKYO Nikko ใบไม้เปลี่ยนสี
เดินทางเดือน ต.ค. - ธ.ค. 68
ทัวร์ญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น
JAPAN TOKYO NIKKO
เที่ยวโตเกียว 6 วัน 4 คืน ห้ามพลาด!!
วันแรก ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง ประเทศไทย
20.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง อาคาร 1 ชั้น3 ประตู1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – จังหวัดอิบารากิ – ตลาดปลานาคามินาโตะ –
ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ – เสาโทริแห่งคามิอิโซะ
08.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
นำท่านออกเดินทางสู่ จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.50 ชั่วโมง)ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น อิบารากิซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามมากมาย โดยเฉพาะเทศกาลที่เกี่ยวกับดอกไม้ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นเจังหวัดที่มีการผลิตนัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น มากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
นำท่านสู่ ตลาดปลานาคามินาโตะ (Nakaminato Fish Market) ท่านสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงมาจากท่าเรือประมงโออาไร อาทิ ข้าวหน้าปลาดิบ หรืออาหารทะเลปิ้งย่าง นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลตากแห้งที่ทำเองโดยชาวประมง ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของฝากอีกด้วย อิสระรับประทานอาหารทะเลสดๆ แบบปิ้งย่าง เพลิดเพลินกับหลากหลายเมนู ปลาสดๆ เช่น ปลาอังโค ปลาชิราสุ (ปลาข้าวสาร) ตามแต่ฤดูกาล หอยเชลล์ หอยตลับ หอยนางรม หมึกย่างเนย และกุ้ง เป็นต้น
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ ตลาดปลาโออาไร
และบริเวณใกล้เคียงกันเดินทางสู่ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นหนึ่งในเสาโทริอิขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันโต ถูกเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งจังหวัด และได้รับความเชื่อถือมาอย่างยาวนานในฐานะเทพเจ้าผู้ให้ความคุ้มครองการคมนาคมทางทะเล และความสงบสุขภายในครอบครัว นำท่านรับพลังงานบวก ณ เสาโทริแห่งคามิอิโซะ (Kamiiso no Torii) โทริอิสีเทาที่นิ่งสงบ บนโขดหินท่ามกลางฟองคลื่นสีขาวที่สาดกระเซ็น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าโอนามุจิโนะมิโคโตะ และ เทพเจ้าสุคุนะฮิโคนะโนะมิโคโตะ สร้างขึ้นตั้งแต่ 29 ธันวาคม ค.ศ.856 รวมทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเฝ้าคอยเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาที่แสงตะวันสาดส่องขึ้นสู่ขอบฟ้า
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (1)
พักที่ MITO HOTEL SEASON, IBARAKI หรือระดับเดียวกัน
วันที่สาม จังหวัดอิบารากิ – น้ำตกฟุคุโรดะ (ใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นอยู่กับฤดูกาล) – เมืองฟุกุชิมะ – สวนนันโกะ (ใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นอยู่กับฤดูกาล) – ศาลเจ้านันโกะ – เมืองไอสุ – วัดซาซะเอโดะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่านสู่ น้ำตกฟุคุโรดะ(Fukuroda Falls) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง) น้ำตกฟุคุโรดะเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอิบารากิ น้ำตกมีความสูง 120 เมตร กว้าง 73 เมตร และยังเป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับความงามของแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นความเขียวขจีในฤดูร้อน ใบไม้สีแดงในฤดูใบไม้ร่วง และน้ำแข็งที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว จึงทำให้น้ำตกแห่งนี้ได้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
จากนั้นนำท่านสู่ จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นเมืองที่เคยเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว และสึนามิ รวมถึงภัยพิบัติจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ด้วยที่เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อาหารทะเลสด ผลไม้อร่อย สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม รวมถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนท้องถิ่นที่ตั้งใจให้การท่องเที่ยวมาช่วยให้ จังหวัดฟุกุชิมะ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทำให้เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
จากนั้นนำท่านสู่ สวนนันโกะ (Nanko Park) สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุด เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1801 ควบคุมการสร้างโดยมัตสึไดระ ซาดะโนบุ เจ้าเมืองคนที่ 12 ของเมืองชิราคาวะ สวนแห่งการพักผ่อนสำหรับชาวเมืองที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 800 ต้น และดอกไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีต้นเมเปิ้ลที่ตั้งเรียงรายรอบทะเลสาบนันโกะ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั่วทั้งบริเวณจะถูกย้อมเป็นสีส้มแดง และภายในสวนยังมี ศาลเจ้านันโกะ (Nanko Shrine) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ที่สถิตของซาดะโนบุ มัตสึไดระ (Sadanobu Matsudaira) เจ้าเมืองชิราคาวะ ซาดะโนบุได้สร้างสิ่งต่าง ๆ อันมีประโยชน์มากมายให้กับพื้นที่แห่งนี้ อาทิ ปรับปรุงพื้นที่โดยรอบบ่อนันโกะ และเปิดให้เป็นพื้นที่สาธารณะให้ชาวเมืองเข้าไปได้ ในพื้นที่ศาลเจ้ามีต้นเบนิชิดาเระซากุระตั้งตระหง่านอยู่อายุราว ๆ 200 ปี และมีที่ให้เช่าเครื่องรางสำหรับบุคลที่จะเข้ามาทำการสักการะอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไอสุ (Aizu) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ
เพื่อนำท่านชม วัดซาซะเอโดะ (Sazaedo Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1796 ตั้งอยู่บริเวณภูเขาอีโมริ (Mt. Iimori) แห่งจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้มีลักษณะเด่นเป็นเจดีย์ไม้สามชั้นทรงหกเหลี่ยม ที่มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกคือ “บันไดวน” ที่ซ้อนกันอยู่สองชั้น มีรูปทรงคล้ายก้นหอย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง และยังเป็นที่นิยมมาขอพรกัน เพราะที่นี่เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์ทั้ง 33 องค์ อีกทั้งด้านบนสุดเป็นจุดชมวิว ที่มองเห็นวิวเมืองไอสึ-วากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ได้อย่างเต็มตา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ AIZU WAKAMATSU WASHINGTON HOTEL หรือระดับเดียวกัน
วันที่สี่ เมืองไอสุ – ปราสาทสึรุกะ (ด้านนอก) – เมืองนิกโกะ – ผ่านชมสะพานชินเคียว –
ศาลเจ้าโทโชกุ – ศาลเจ้าฟูตาระ – เมืองซาโนะ – อิออน มอลล์ ซาโนะ นิว ซิตี้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
นำท่านชม ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) (ด้านนอก) หรือ ปราสาทนกกระเรียนเป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสุวาคามัทซึ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสุวาคามัทซึ เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ (Kurokawa Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 โดยตระกูลอะชินะ แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนักและได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น ไฮไลท์!!! ปราสาทแห่งนี้ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่ยังทิ้งร่องรอยของเหล่านักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่น ที่ได้เลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองนิกโกะ (Nikko) จังหวัดโทจิกิ (Tochigi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชั่วโมง) สำหรับนิกโกะ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ มีมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรมมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
นั่งรถบัสผ่านชม สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโกะ เป็นของศาลเจ้าฟูตะระซัง เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับ สะพานคินไตเคียว ที่อิวาคูนิกับสะพานซารุฮาชิ ที่ยามานาชิ สะพานชินเคียวเป็นสะพานโค้งสีแดง ทอดข้าม แม่น้ำไดยะ (Daiya river) ตรงเชิงปากทางขึ้นสู่แหล่งมรดกโลก มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำประมาร 10 เมตร สร้างจากไม้ โดยมีเสาหินรองรับน้ำหนัก สมัยก่อนสะพานนี้ใช้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นในการข้ามแม่น้ำไดยะ (ไม่รวมค่าข้ามสะพาน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละ 500 เยน)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าโทโชกุนั้นก็เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อนิกโก้และต่อญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นสุสานของโชกุน โตกุกาว่า อิเอยาสุ ซึ่งเป็นโชกุนที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงที่นี่ยัง มีการอัญเชิญดวงวิญญาณอีกสองดวงคือโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญ และมินาโมโตะ โยริโตโมะ ผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลทหาร มาสถิตย์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ ได้รับการรับรองเป็น มรดกโลก จากองกรณ์ยูเนสโก้ บริเวณทางเข้ามีแผ่นหินจารึกตัวอักษรว่า โทโชกุและโทริอิ หินขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ เป็นจุดรับพลังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 400 ปี ภายในศาลเจ้ามีประติมากรรมสวยงามจำนวนมาก ทั้ง เจดีย์ห้าชั้น สีสันสวยงาม มีความสูงถึง 36 เมตร ที่ใต้หลังคาชั้นแรกจะมีประติมากรรมสิบสองราศี หรือจะเป็น ประติมากรรมลิงสามตัว ที่แสดงความหมายว่าไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟังสิ่งที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังประติมากรรม แมวนอน ที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น อยู่ที่ประตูซากาชิตะมง ซึ่งแมวนอนนั้นสื่อถึง สันติภาพ นั่นเอง และนำท่านขอพรความรัก ณ ศาลเจ้าฟูตะระซัง (Futarasan Shrine) ไม่ใช่แต่ด้านความรักแบบหนุ่มสาวเท่านั้น ทั้งด้าน ครอบครัวหรือเพื่อน ก็สามารถทดสอบขอความรัก ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ ภายในศาลเจ้า จะมีสถานที่ที่จะทำให้โชคดีด้านความรักอยู่มากมาย เช่น "จุดปาหัวใจขอให้สมหวังด้านความรัก" เมื่อปาแผ่นรูปหัวใจไปที่เสาแห่งความรัก ยิ่งใกล้เสาแห่งความรักเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนคำขอจะยิ่งใกล้ความจริง นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านขอความรักแล้วนั้น ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีผู้คนนิยมมาขอพรด้านโชคลาภอีกด้วย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาโนะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง)
เพื่อนำท่านสู่ อิออน มอลล์ ซาโนะ นิว ซิตี้ (AEON MALL SANO NEW CITY) ศูนย์กลางการ ช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ให้คุณสามารถซื้อหาได้ทุกสิ่งในที่เดียวแหล่งรวมเอาซูเปอร์มาร์เก็ตและช้อปปิ้ง มอลล์ไว้ด้วยกัน มีสาขาอยู่มากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น และเนื่องจากมีสินค้าหลากหลายครบครันตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม สินค้าซักกะ (zakka) เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ ยาชนิดต่างๆ ตลอดจนสินค้าประเภทอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของที่ระลึก ของฝาก เรียกว่ามีบริการอำนวยความสะดวกให้กับนักช้อปได้อย่างครบครันเลยทีเดียว
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL ROUTE-INN SANOFUJIOKA INTER หรือระดับเดียวกัน
วันที่ห้า กรุงโตเกียว – ดิวตี้ฟรี – วัดอาซากุสะ – ช้อปปิ้งถนนนากามิเสะ – ถ่ายรูป โตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ – ชมแมวยักษ์ 3 มิติ พร้อมช้อปปิ้ง ย่านชินจูกุ – เมืองนาริตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เพื่อนำท่านสู่ ดิวตี้ฟรี (Duty Free) อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง เสื้อผ้า น้ำหอม ต่างๆ ตามอัธยาศัย
จากนั้นนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “Kaminari Mon หรือ ประตูฟ้าคำรณ” บริเวณทางเข้าสู่ตัววิหารจะมี ถนนนากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น หน้ากาก ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก และขนมนานาชนิด ทั้ง เมล่อนปังในตำนาน ดังโงะหนึบหนับ ขนมนิงเงียวยากิไส้ถั่วแดง และน้องปลาขนมไทยากิ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก ใกล้กันพาท่านเดินไปถ่ายรูปคู่กับ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียว บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
นำท่านช้อปปิ้ง ย่านชินจุกุ (Shinjuku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นอกจากแมวยักษ์แล้ว ท่านยังสามารถรับชมโฆษณาต่างๆ ที่ถูกครีเอทให้เป็นภาพ 3 มิติผ่านจอแอลอีดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า, รองเท้าไนกี้, น้องหมา Pompompurin, จานบิน UFO แม้แต่ หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น ท่านสามารถรับชมและเก็บภาพได้ตามอัธยาศัย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ THE HEDISTAR HOTEL NARITA หรือระดับเดียวกัน
วันที่หก ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (โดยรถบัสโรงแรม)
09.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601
14.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
ข้อมูลทัวร์เพิ่มเติม | ทำวีซ่า โทร. 084-2261956, 087-0868527
Line Id : tourjaidee